บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับ “เวชศาสตร์ฟื้นฟู” โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทสำคัญในการดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ตั้งแต่ความหมาย ขอบเขตการรักษา ประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับ ใครบ้างที่เหมาะสม และขั้นตอนการรักษาโดยละเอียด
“เวชศาสตร์ฟื้นฟู” คืออะไร ทำความเข้าใจง่าย ๆ ใน 3 นาที
เวชศาสตร์ฟื้นฟู คือ ศาสตร์ทางการแพทย์แขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการวินิจฉัย ประเมิน และรักษาความบกพร่องของร่างกายและจิตใจ อันเนื่องมาจากภาวะเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือความพิการต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุด ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และการประกอบอาชีพ
สำหรับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู คือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู มีความรู้ความสามารถในการประเมิน วางแผน และดำเนินการรักษาผู้ป่วยที่มีความบกพร่องต่าง ๆ โดยทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เช่น นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักอรรถบำบัด นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และพยาบาล เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
เจาะลึกบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟู มีอะไรบ้าง สำคัญต่อการฟื้นฟูอย่างไร?
บริการด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูมีความหลากหลาย ครอบคลุมการรักษาหลายด้าน ได้แก่
- กายภาพบำบัด เน้นการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การทรงตัว และการเดิน
- กิจกรรมบำบัด มุ่งเน้นการฟื้นฟูความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน การทำงาน และการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม
- อรรถบำบัด ดูแลและฟื้นฟูความผิดปกติในการสื่อสาร การพูด การกลืน และการรับประทานอาหาร
- จิตวิทยา ให้การดูแลด้านจิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้ป่วยและครอบครัว
- การจัดการความเจ็บปวด รักษาอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ
- การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจและปอด
- การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการได้ยิน สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการได้ยิน
- การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการมองเห็น สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการมองเห็น
- การฟื้นฟูสมรรถภาพทางระบบประสาท ดูแลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง บาดเจ็บไขสันหลัง สมองได้รับบาดเจ็บ
ขั้นตอนในการรักษาทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู
โดยทั่วไป ขั้นตอนการรักษาทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีดังนี้
- การประเมินโดยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินความบกพร่องต่างๆ ของผู้ป่วย
- การวางแผนการรักษา แพทย์จะร่วมกับทีมสหวิชาชีพและผู้ป่วย/ครอบครัว ในการกำหนดเป้าหมายและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- การบำบัดรักษา ผู้ป่วยจะได้รับการบำบัดจากทีมสหวิชาชีพตามแผนที่วางไว้ เช่น กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด อรรถบำบัด
- การติดตามผลและปรับแผน ทีมรักษาจะติดตามความคืบหน้าของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ และปรับแผนการรักษาตามความจำเป็น
- การให้คำแนะนำและการดูแลต่อเนื่อง เมื่อผู้ป่วยสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ทีมรักษาจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตนเอง การออกกำลังกาย และการป้องกันภาวะแทรกซ้อน รวมถึงอาจมีการนัดติดตามผลเป็นระยะ
เวชศาสตร์ฟื้นฟู กับ กายภาพบำบัด แตกต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจสับสนระหว่าง เวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด แม้ว่ากายภาพบำบัดจะเป็นส่วนหนึ่งของเวชศาสตร์ฟื้นฟู แต่มีความแตกต่างกันดังนี้
- เวชศาสตร์ฟื้นฟู เป็นศาสตร์ทางการแพทย์ที่ครอบคลุมการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม โดยมีแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูเป็นผู้วางแผนการรักษาและประสานงานกับทีมสหวิชาชีพต่างๆ
- กายภาพบำบัด คือการประเมิน วินิจฉัยและบำบัดความบกพร่องของร่างกาย ซึ่งเกิดเนื่องจากภาวะของโรคหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การแก้ไขและการฟื้นฟูความเสื่อมสภาพ โดยใช้เครื่องมือหรือการนวด หรือการยืดที่รักษาร่วมด้วยเครื่องมือ เป็นต้น
เวชศาสตร์ฟื้นฟูเกี่ยวข้องกับการรักษาโรคหลอดเลือดสมองอย่างไร?
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภาวะที่สมองได้รับความเสียหายจากการขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เกิดความบกพร่องในการทำงานของร่างกายและจิตใจ การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และ เวชศาสตร์ฟื้นฟู มีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของการฟื้นฟู
เวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้ามามีบทบาทในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในหลายด้าน ดังนี้
- การประเมิน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูจะทำการประเมินความบกพร่องของผู้ป่วยอย่างละเอียด ทั้งด้านการเคลื่อนไหว ความรู้สึก การสื่อสาร การกลืน การทำงานของสมอง และสภาพจิตใจ
- การวางแผนการรักษา จากผลการประเมิน แพทย์จะวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล โดยกำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- การบำบัดรักษา ทีมสหวิชาชีพจะดำเนินการรักษาตามแผนที่วางไว้ เช่น การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหว การทำกิจกรรมบำบัดเพื่อฝึกกิจวัตรประจำวัน การฝึกพูดโดยนักอรรถบำบัด และการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา
- การติดตามผล แพทย์จะติดตามความคืบหน้าของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับพัฒนาการของผู้ป่วย
- การให้คำแนะนำ ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการดูแลตนเอง การป้องกันภาวะแทรกซ้อน และการปรับตัวเพื่อกลับไปใช้ชีวิตในสังคม
8 สิ่งที่เวชศาสตร์ฟื้นฟู ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้
สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เวชศาสตร์ฟื้นฟูสามารถช่วยในหลายด้าน ดังนี้
- ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวแขนขาได้ดีขึ้น เดินได้มั่นคงขึ้น และลดภาวะข้อติด
- ฟื้นฟูการทรงตัว ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถทรงตัวได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม
- ฟื้นฟูการสื่อสาร ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการพูด การเข้าใจภาษา การอ่าน และการเขียน สามารถสื่อสารได้ดีขึ้น
- ฟื้นฟูการกลืน ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาในการกลืนอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ฟื้นฟูการทำงานของสมอง ช่วยพัฒนาความจำ สมาธิ การแก้ปัญหา และการคิดวิเคราะห์
- ฟื้นฟูการทำกิจวัตรประจำวัน ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองในการแต่งตัว อาบน้ำ รับประทานอาหาร และเข้าห้องน้ำได้
- ลดอาการปวด ช่วยจัดการอาการปวดที่อาจเกิดขึ้นหลังภาวะหลอดเลือดสมอง
- ปรับปรุงคุณภาพชีวิต ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
ใครบ้างที่ควรเข้ารับ “เวชศาสตร์ฟื้นฟู“? เช็คเลย!
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทุกคน ควรได้รับการประเมินและพิจารณาเข้ารับบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้
- อ่อนแรงหรือชาที่แขนขา ใบหน้า
- พูดไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูด
- มองเห็นลำบาก
- เวียนศีรษะ เสียการทรงตัว
- ปวดศีรษะรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีปัญหาในการกลืน
สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่กำลังมองหาแนวทางการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพ WALK WELL เป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองที่น่าสนใจ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง ทั้งอายุรแพทย์ระบบประสาทและแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู พร้อมโปรแกรมกายภาพบำบัดที่ออกแบบเฉพาะบุคคล และมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ ติดต่อศูนย์ WALK WELL
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ เวชศาสตร์ฟื้นฟู
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองควรเข้ารับบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟูเมื่อไร?
ควรรีบเข้ารับบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยเร็วที่สุด เท่าที่อาการของผู้ป่วยคงที่ การเริ่มต้นการฟื้นฟูตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
ควรรีบเข้ารับบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยเร็วที่สุด เท่าที่อาการของผู้ป่วยคงที่ การเริ่มต้นการฟื้นฟูตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
เวชศาสตร์ฟื้นฟูช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองซ้ำได้ไหม?
โดยตรงแล้วเวชศาสตร์ฟื้นฟูไม่ได้ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองซ้ำ แต่การฟื้นฟูสมรรถภาพและการให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การควบคุมความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และไขมันในเลือด รวมถึงการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองซ้ำได้
โดยตรงแล้วเวชศาสตร์ฟื้นฟูไม่ได้ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองซ้ำ แต่การฟื้นฟูสมรรถภาพและการให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การควบคุมความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และไขมันในเลือด รวมถึงการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองซ้ำได้
ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะเห็นผลจากเวชศาสตร์ฟื้นฟู?
ระยะเวลาในการเห็นผลของการฟื้นฟูแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ตำแหน่งของสมองที่ได้รับผลกระทบ ความมุ่งมั่นของผู้ป่วย และการสนับสนุนจากครอบครัว โดยทั่วไป การฟื้นตัวจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 3-6 เดือนแรก และอาจมีการพัฒนาต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
ระยะเวลาในการเห็นผลของการฟื้นฟูแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ตำแหน่งของสมองที่ได้รับผลกระทบ ความมุ่งมั่นของผู้ป่วย และการสนับสนุนจากครอบครัว โดยทั่วไป การฟื้นตัวจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 3-6 เดือนแรก และอาจมีการพัฒนาต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
การฝึกพูดและการกลืนคือส่วนหนึ่งของเวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือไม่
ใช่ ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองจำนวนมากมีปัญหาพูดไม่ชัดหรือกลืนลำบาก นักแก้ไขการพูดจะช่วยฝึกออกเสียง ฝึกกลืน และใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้สื่อสารและรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย
ใช่ ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองจำนวนมากมีปัญหาพูดไม่ชัดหรือกลืนลำบาก นักแก้ไขการพูดจะช่วยฝึกออกเสียง ฝึกกลืน และใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้สื่อสารและรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย
หากเริ่มฟื้นฟูล่าช้าจะได้ผลน้อยลงหรือไม่
ใช่ หากพ้น Golden Period ผลลัพธ์อาจไม่ดีเท่าการเริ่มต้นเร็ว แต่การฟื้นฟูที่ต่อเนื่องก็ยังช่วยได้ ทั้งในด้านแรงกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น และสุขภาพจิต
ใช่ หากพ้น Golden Period ผลลัพธ์อาจไม่ดีเท่าการเริ่มต้นเร็ว แต่การฟื้นฟูที่ต่อเนื่องก็ยังช่วยได้ ทั้งในด้านแรงกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น และสุขภาพจิต