“เส้นเลือดในสมองตีบ” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “สโตรก” เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่อัมพาต พูดลำบาก หรือเสียชีวิตได้ การเข้าใจว่าเส้นเลือดในสมองตีบ รักษาหายไหม เส้นเลือดในสมองตีบ รักษา อย่างไรสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะอธิบายวิธีดูแลเส้นเลือดในสมองตีบ รักษาเบื้องต้น พร้อมแนะนำผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ควรกินอะไร เพื่อป้องกันและรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
เส้นเลือดในสมองตีบหายได้ทัน ต้องใช้หลักการ Stroke Fast Track
Stroke Fast Track เป็นระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด มาตรฐาน 4.5 ชั่วโมง (ระยะเวลาที่ทันต่อการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอด เลือดดำ) หลังจากเริ่มมีอาการ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับบริบทและข้อจำกัดของแต่ละโรงพยาบาล
เส้นเลือดในสมองตีบ รักษายังไงให้กลับมาแข็งแรงมีอะไรบ้าง
เมื่อส่งคนไข้สู่กระบวนการทางการแพทย์แล้ว วิธีการรักษาเส้นเลือดในสมองตีบนั้น ทางทีมแพทย์จะทำการเปิดหลอดเลือด เพื่อให้เลือดกลับไปเลี้ยงส่วนของสมองที่ยังไม่เสียหายนั้นสำคัญที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้
- ให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ (rtPA) ในรายที่มีอาการน้อยกว่า 4.5 ชั่วโมง และ ไม่มีข้อห้ามในการให้ยา
- ใช้สายสวนดึงลากลิ่มเลือด (thrombectomy) ในรายที่มีลิ่มเลือดชิ้นใหญ่ในหลอดเลือด สมอง มีอาการ ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และไม่มีข้อห้าม
ดังนั้นการที่พาผู้ป่วยไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดจึงสำคัญ ไม่ควรรอสังเกตอาการ
วิธีดูแลผู้ป่วย เส้นเลือดในสมองตีบมีกี่ระยะบ้าง
การรักษาโรคหลอดเลือดสมองผ่านการดูแลต่อเนื่องและการกายภาพฟื้นฟูมีหลายระยะไม่ว่าจะเป็น
วิธีการดูแลระยะเฉียบพลัน
- สิ่งที่ญาติควรทำคือ สังเกตอาการของผู้ป่วยตามหลัก “BE-FAST” (Balance, Eyes, Face, Arms, Speech, Time)
- นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- การนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ญาติสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยและแพทย์ได้
วิธีการดูแลระยะฟื้นตัว
สิ่งที่ควรทำคือ การทำกายภาพบำบัด เส้นเลือดในสมองตีบอย่างเข้มข้นในช่วง 3 เดือนแรก (Golden Period) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการกายภาพบำบัดจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์สมองที่เหลืออยู่เรียนรู้และทำหน้าที่ทดแทนส่วนที่เสียหาย
วิธีการดูแลระยะทรงตัว
สิ่งที่ควรทำ
- ในช่วงที่ผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล แพทย์จะเป็นผู้ดูแลและประเมินอาการอย่างใกล้ชิด
- แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองและโรคร่วมอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง
- เมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน ญาติควรดูแลผู้ป่วยตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การควบคุมอาการของโรคร่วม การทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง และการดูแลด้านอื่นๆ ที่จำเป็น
ทำไม Golden Period ช่วงเวลาทองของการฟื้นฟูสมอง
Golden period คือ ช่วงเวลา 3 – 6 เดือนแรกหลังผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองผ่านพ้นระยะวิกฤต ซึ่งเป็นช่วงที่สมองสามารถฟื้นตัวได้ดีที่สุด เนื่องจากเซลล์สมองที่เหลืออยู่จะพยายามปรับตัวและทำงานทดแทนส่วนที่เสียหาย เพราะฉะนั้น เส้นเลือดในสมองตีบ รักษาหายไหมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่ระยะก่อนรักษา ระหว่างรักษาและระยะการฟื้นตัว
เส้นเลือดในสมองตีบ ควรกินอะไร ห้ามกินอะไร
โรคเส้นเลือดในสมองตีบ ห้ามกินอะไร คำถามนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมาก แต่การแนะนำอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงและโรคประจำตัวของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ไม่ได้มีข้อห้ามที่ตายตัวสำหรับทุกคน โดยทั่วไปอาหารที่ควรทาน ได้แก่ ผักใบเขียว ปลา ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วต่าง ๆ และเมื่อเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ผลไม้ทุกชนิดมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
คำแนะนำเฉพาะบุคคล
- ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง เน้นอาหารโซเดียมต่ำ ลดอาหารเค็ม
- ผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง เน้นอาหารไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว เลือกโปรตีนจากแหล่งไขมันต่ำ เช่น ปลา อกไก่
- ผู้ป่วยเบาหวาน ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต เลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
- ผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ งดสูบบุหรี่
เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบควรพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยงและโรคประจำตัวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันสูง อาหารทอด อาหารแปรรูป ลดปริมาณโซเดียม อาหารรสเค็มจัด อาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมสูง และควบคุมระดับน้ำตาล
WALK WELL – เดินได้เดินดี ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยอายุรแพทย์ระบบประสาท และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มีโปรแกรมกายภาพบำบัด สามารถปรับตามได้ในแต่ละบุคคล และมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อศูนย์ WALK WELL
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ เส้นเลือดในสมองตีบ รักษาหายไหม
ผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบสามารถกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่
หากรักษาเร็วภายในเวลาเหมาะสมและเข้าฟื้นฟูต่อเนื่อง เช่น กายภาพบำบัด ฝึกพูด ฝึกกลืน ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ แต่บางรายอาจยังมีความบกพร่องเล็กน้อย เช่น เดินช้าลง หรือพูดไม่ชัดเล็กน้อย
หากรักษาเร็วภายในเวลาเหมาะสมและเข้าฟื้นฟูต่อเนื่อง เช่น กายภาพบำบัด ฝึกพูด ฝึกกลืน ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ แต่บางรายอาจยังมีความบกพร่องเล็กน้อย เช่น เดินช้าลง หรือพูดไม่ชัดเล็กน้อย
เส้นเลือดในสมองตีบ รักษาที่ไหนดี
ที่ WalkWell ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีทีมแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัดที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมโปรแกรมฟื้นฟูที่ออกแบบตามสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกเดิน ฝึกพูด ฝึกกลืน รวมถึงการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด
ที่ WalkWell ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีทีมแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัดที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมโปรแกรมฟื้นฟูที่ออกแบบตามสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกเดิน ฝึกพูด ฝึกกลืน รวมถึงการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด
หลังจากรักษาแล้วต้องดูแลตัวเองอย่างไร
ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง ควบคุมโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน และไขมัน พร้อมปรับพฤติกรรม เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญคือทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก (Golden Period) เพื่อให้สมองฟื้นตัวได้ดีที่สุด ควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดเค็ม ลดมัน และตรวจสุขภาพตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง ควบคุมโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน และไขมัน พร้อมปรับพฤติกรรม เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญคือทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก (Golden Period) เพื่อให้สมองฟื้นตัวได้ดีที่สุด ควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดเค็ม ลดมัน และตรวจสุขภาพตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
ป้องกันไม่ให้เส้นเลือดในสมองตีบกลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่
ทำได้โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ เช่น ความดันสูง ไขมันสูง น้ำหนักเกิน รวมถึงการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ทำได้โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ เช่น ความดันสูง ไขมันสูง น้ำหนักเกิน รวมถึงการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ