โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบประสาทที่ร้ายแรง ซึ่งเกิดจากการที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ ตัน หรือแตก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ความพิการหรือเสียชีวิตได้ การที่พาผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลได้ไวจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ทันท่วงทีและลดความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้น (รักษาทัน) บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 สัญญาณเตือนสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง อาการที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแนวทางการปฏิบัติเมื่อพบสัญญาณเตือน
โรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
โรคหลอดเลือดสมอง คือโรคทางสมองที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยมีสาเหตุมาจากการที่หลอดเลือดสมองตีบหรือแตก ส่งผลให้สมอง ขาดออกซิเจนและเสียหาย ไม่สามารถสั่งการได้ตามปกติ เกิดอาการทางระบบประสาทตามตำแหน่งของสมองที่ เสียหาย เช่น อ่อนแรงครึ่งซีก หน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด ไม่เข้าใจภาษา มองไม่เห็น เวียนศีรษะ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่าง ทันท่วงทีอาจทำให้สมองได้รับความเสียหายถาวร นำมาซึ่งภาวะทุพพลภาพ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
- โรคหลอดเลือดสมองตีบ (Ischemic Stroke) เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองขาดเลือดและออกซิเจน
- โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) เกิดจากการแตกของหลอดเลือดในสมอง ทำให้มีเลือดออกในเนื้อสมอง หรือบริเวณรอบ ๆ สมอง
ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และทำให้เกิด
- อายุ อายุที่มากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง แม้ว่าจะไม่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ ก็ตาม ตัวอย่างเช่น ผู้สูงอายุ 80 ปี มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่มีอายุ 30 ปี
- พันธุกรรม ประวัติครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อาจเพิ่มความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นเพียงส่วนน้อยของสาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ จึงควรเน้นไปควบคุมปัจจัยที่ควบคุมได้
ปัจจัยที่ควบคุมได้ และทำให้เกิด
- โรคประจำตัว
- โรคเบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคหัวใจ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอย่างมาก
- การใช้สารเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว การใช้สารเสพติด เช่น ยาบ้า ยาอี และสุรา สามารถทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
- การดื่มสุราในปริมาณมาก
- การไม่ออกกำลังกาย
- โรคอ้วน
รวม 10 สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง รู้ไว ไปรักษาทัน
- โรคประจำตัว
- โรคเบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคหัวใจ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอย่างมาก
- การใช้สารเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว การใช้สารเสพติด เช่น ยาบ้า ยาอี และสุรา สามารถทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
- การดื่มสุราในปริมาณมาก
- การไม่ออกกำลังกาย
- โรคอ้วน
รวม 10 สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง รู้ไว ไปรักษาทัน
โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่ไม่มีสัญญาณใดๆ มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทางเราได้รวมสัญญาณเตือนที่เราควรรู้ไว้ว่า หากมีสัญญาณเหล่านี้เล็กน้อย ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อประเมินเบื้องต้น ดังนี้
1. พูดไม่ชัดเจน หรือสื่อสารไม่เข้าใจ
สื่อสารไม่ปกติ มีปัญหาในการออกเสียง สะกดคำผิด หรือฟังคำพูดของผู้อื่นไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถโต้ตอบได้
2. ใบหน้าผิดปกติด้านใดด้านหนึ่ง
มุมปากตก หรือใบหน้าบิดเบี้ยวขณะยิ้ม บ่งบอกถึงกล้ามเนื้อใบหน้าทำงานผิดปกติ
3. แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง
ยกแขนไม่ขึ้น หรือยกแล้วตก ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ตามปกติ
4. มีอาการสับสนหรือมึนงงแบบทันทีทันใด
ผู้ป่วยคิดอะไรไม่ออก จำสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังปกติดี
5. เดินลำบาก หรือทรงตัวไม่อยู่
การทรงตัวไม่สมดุล รู้สึกเหมือนจะล้ม หรือเวียนหัวจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
6. ปวดหัวอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ
ปวดแบบเฉียบพลัน และมากกว่าที่เคยเจอ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือหมดสติร่วมด้วย
7. การมองเห็นผิดปกติ
เช่น เห็นภาพซ้อน มัว เบลอ หรือมองเห็นได้เพียงข้างเดียว
8. รู้สึกชาหรือผิดปกติบริเวณใบหน้า
หรือ แขน หรือขา โดยเฉพาะหากเกิดแค่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
9. เวียนศีรษะอย่างเฉียบพลัน
รู้สึกเหมือนบ้านหมุน สูญเสียสมดุล ไม่สามารถยืนได้มั่นคง
10. หมดสติหรือมีอาการซึมลงเร็วผิดปกติ
เกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณของภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน
อาการของโรคหลอดเลือดสมอง เมื่อเกิดขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
นอกจากสัญญาณเตือนตามที่กล่าวข้างต้นแล้วนั้น เรายังสามารถสังเกตอาการด้วยหลักการ BE FAST 6 อาการนี้ ที่ไม่ควรมองข้าม หากมีอาการนี้เกิดขึ้นควรรีบนำคนไข้ไปโรงพยาบาลทันทีทันใด
- B BALANCE สูญเสียความสมดุลและการประสานงานของร่างกาย มีปัญหาในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้การประสานงานของกล้ามเนื้อ เช่น การหยิบจับสิ่งของ
- E EYES ตาพร่ามัว มองเห็นมีปัญหา มองเห็นภาพซ้อน มองเห็นไม่ชัด หรือสูญเสียการมองเห็นข้างใดข้างหนึ่งอย่างฉับพลัน
- F FACE ปากเบี้ยว มุมปากข้างหนึ่งตก หรือยิ้มแล้วปากไม่เท่ากัน นี่เป็นสัญญาณสำคัญของความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้า ซึ่งอาจเป็นอาการก่อนเส้นเลือดในสมองแตก หรือ อาการเตือนสโตรก
- A ARMS แขน หรือขาอ่อนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย นี่คืออาการเบื้องต้นที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาท
- S SPEECH พูดลำบาก หรือลิ้นแข็ง มีปัญหาในการพูด พูดไม่ชัด พูดตะกุกตะกัก หรือไม่เข้าใจคำพูดของผู้อื่น อาการลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด เกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนที่ควบคุมการพูด
- T TIME อาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ต้องรีบไรงพยาบาลทันที
หากหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบ แต่ไปพบหมอไม่ทันจะเป็นอย่างไร
เมื่อเกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เซลล์สมองจะเริ่มตายลงอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาภายในเวลาที่เหมาะสม (Golden Period) อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสมองอย่างถาวร ซึ่งนำไปสู่
- ความพิการ: เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต พูดไม่ได้ กลืนลำบาก
- ปัญหาด้านความจำและการคิด สูญเสียความทรงจำ มีปัญหาในการตัดสินใจ
- ปัญหาด้านอารมณ์และพฤติกรรม เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล เปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ
- ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพอื่น ๆ เช่น ปอดอักเสบ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- เสียชีวิต ในกรณีที่รุนแรง
อาการเส้นเลือดในสมองแตก ไม่รู้สึกตัวเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความรุนแรงของภาวะและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน
วิธีการรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
การรักษาโรคหลอดเลือดสมองจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและระยะเวลาที่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาล
- หลอดเลือดสมองตีบ การเปิดหลอดเลือด เพื่อให้เลือดกลับไปเลี้ยงส่วนของสมองที่ยังไม่เสียหายนั้นสำคัญที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ (rt-PA) ในรายที่มีอาการน้อยกว่า 4.5 ชั่วโมง และ ไม่มีข้อห้ามในการให้ยา ใช้สายสวนดึงลากลิ่มเลือด (Thrombectomy) ในรายที่มีลิ่มเลือดชิ้นใหญ่ในหลอดเลือด สมอง มีอาการ ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และไม่มีข้อห้าม ดังนั้นการที่พาผู้ป่วยไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดจึงสำคัญ ไม่ควรรอสังเกตอาการ
- หลอดเลือดสมองแตก ไม่มีการใช้ยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วย หลอดเลือดสมองแตกเนื่องจากจะทำให้เลือดออกมากขึ้น อาการผู้ป่วยแย่ลง ในบางรายที่เลือดออกมาก ศัลยแพทย์ระบบประสาท อาจพิจารณาใช้การผ่าตัดรักษา
หลังจากการรักษาในระยะเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักต้องเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วย กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด อรรถบำบัด และการฟื้นฟูทางจิตใจ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
โรคหลอดเลือดสมองรักษาได้หรือไม่ ?
สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
- สมองบริเวณที่เสียหายมากน้อยเพียงใด หรือเสียหายในจุดสำคัญหรือไม่
- หลังจากที่รักษาแล้วสามารถควบคุมโรคประจำตัวของตัวเองได้ดีแค่ไหน
- อายุของคนไข้
- ได้ทำการกายภาพหลังจากที่รักษาแล้วหรือไม่
ดังนั้นใครที่สมองเสียหายน้อยการฟื้นตัวจะทำได้เร็วกว่า กลับมาเดินได้ไวกว่า อาจจะแค่ภายใน 1 เดือน แต่ใครที่สมองเสียหายมาก การฟื้นตัวจะทำได้ช้าหรือทำไม่ค่อยได้ ภายใน 1 เดือน อาจทำได้เพียงฝึกนั่งบนเตียง ฝึกทรงตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวร่วมด้วย ในบางคนที่ไม่มีโรคประจำตัว แต่อยู่ดี ๆ พบว่าตนเองเป็น Stroke การฟื้นตัวก็จะทำได้เร็วกว่าคนที่มีปัญหาเบาหวาน ความดัน หรือการไหลเวียนเลือดอื่น ๆ ร่วมด้วย และในคนที่อายุมาก การฟื้นตัวจะยิ่งต้องใช้เวลานานขึ้น
การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองมีวิธีอย่างไร ?
แยกออกเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้และควบคุมได้ ดังนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้
- อายุ คนไข้ที่มีอายุมากนั้นจะมีความเสี่ยงต่อโรคมากกว่าคนที่อายุน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
- พันธุกรรม
ปัจจัยที่ควบคุมได้
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- บุหรี่ ควรงดการสูบบุหรี่
- เบาหวาน
- สารเสพติด เป็นอีกสาเหตุสำคัญของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองตั้งแต่อายุยังน้อย
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- บุหรี่ ควรงดการสูบบุหรี่
- เบาหวาน
- สารเสพติด เป็นอีกสาเหตุสำคัญของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองตั้งแต่อายุยังน้อย
การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างต่อเนื่องและครบวงจรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการฟื้นตัวที่ดี WALK WELL – เดินได้เดินดี ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง ให้บริการโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ทั้งอายุรแพทย์ระบบประสาทและแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่พร้อมด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล และมีการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ หากท่านสนใจในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างมืออาชีพ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ 10 สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง
ทำไมต้องรู้จักสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง
เพราะโรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและทุกนาทีคือความเสียหายของสมอง หากสังเกตอาการได้เร็วและรีบพาไปโรงพยาบาลทันที โอกาสรอดและฟื้นตัวจะสูงกว่าการรักษาช้าอย่างมาก
เพราะโรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและทุกนาทีคือความเสียหายของสมอง หากสังเกตอาการได้เร็วและรีบพาไปโรงพยาบาลทันที โอกาสรอดและฟื้นตัวจะสูงกว่าการรักษาช้าอย่างมาก
หากพบอาการเตือนเพียงข้อเดียว ควรรอดูอาการก่อนหรือไม่
ไม่ควรรอดูอาการ แม้จะมีเพียงอาการเดียวก็ควรรีบโทร 1669 เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคหลอดเลือดสมองที่รุนแรงขึ้น
ไม่ควรรอดูอาการ แม้จะมีเพียงอาการเดียวก็ควรรีบโทร 1669 เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคหลอดเลือดสมองที่รุนแรงขึ้น
หากพบผู้ป่วยมีสัญญาณเตือน Stroke ควรพาไปโรงพยาบาลแบบไหน
ควรไปโรงพยาบาลที่มีระบบ Stroke Fast Track หรือมีทีมแพทย์เฉพาะทาง เพราะสามารถตรวจ CT/MRI และให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ทันท่วงที
ควรไปโรงพยาบาลที่มีระบบ Stroke Fast Track หรือมีทีมแพทย์เฉพาะทาง เพราะสามารถตรวจ CT/MRI และให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ทันท่วงที
เด็กสามารถมีอาการ Stroke ได้หรือไม่
แม้พบได้น้อย แต่เด็กก็สามารถเกิด Stroke ได้ โดยมักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของหัวใจ การติดเชื้อ หรือโรคเลือด อาการหลักคล้ายกับผู้ใหญ่ เช่น แขนขาอ่อนแรงหรือชัก
แม้พบได้น้อย แต่เด็กก็สามารถเกิด Stroke ได้ โดยมักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของหัวใจ การติดเชื้อ หรือโรคเลือด อาการหลักคล้ายกับผู้ใหญ่ เช่น แขนขาอ่อนแรงหรือชัก
ถ้าอาการ Stroke เกิดขึ้นแล้วแต่ไม่รุนแรง ควรรอหรือไม่
ไม่ควรรอ เพราะอาการอาจลุกลามเป็นรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้อาการจะดูเล็กน้อย เช่น พูดไม่ชัดเพียงเล็กน้อย ก็ควรรีบไปโรงพยาบาล
ไม่ควรรอ เพราะอาการอาจลุกลามเป็นรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้อาการจะดูเล็กน้อย เช่น พูดไม่ชัดเพียงเล็กน้อย ก็ควรรีบไปโรงพยาบาล