ADD ANYTHING HERE OR JUST REMOVE IT…

แขนขาอ่อนแรงเกิดจากอะไร สาเหตุที่ควรรู้ และวิธีดูแลตัวเอง

แขนขาอ่อนแรงเกิดจากอะไร สาเหตุที่ควรรู้ และวิธีดูแลตัวเอง
Table of Contents

“แขนขาอ่อนแรง” อาการที่หลายคนอาจเคยประสบพบเจอ และเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากโรคประจำตัว การบาดเจ็บ หรือแม้แต่ภาวะเสื่อมตามวัย การปล่อยปะละเลยอาการนี้ไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น อัมพาต หรือการเคลื่อนไหวลำบาก

บทความนี้จะพาคุณไปไขปริศนา ว่าอาการแขนขาอ่อนแรงเกิดจากอะไร มีสาเหตุใดที่ควรระวัง? และขาไม่มีแรงทําไงดี เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างถูกต้องและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

แขนขาอ่อนแรงเกิดจากอะไร? สาเหตุที่คุณควรรู้

อาการแขนขาอ่อนแรง เป็นอาการที่บ่งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติในร่างกาย อาจเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการรู้สาเหตุจะช่วยให้สามารถรักษาและป้องกันได้อย่างถูกต้อง

สาเหตุที่ทำให้แขนขาอ่อนแรง

1. โรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก ทำให้เซลล์สมองขาดออกซิเจนและตาย ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง

2. โรคเส้นประสาท โรคบางชนิด เช่น โรคเส้นประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน โรคปลอกประสาทเสื่อม สามารถทำลายเส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการอ่อนแรง

3. โรคกล้ามเนื้อ โรคกล้ามเนื้อบางชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular dystrophy) หรือโรคไมแอสเทเนียเกรวิส (Myasthenia gravis) สามารถทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงได้

4. การบาดเจ็บ การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง กระดูกสันหลัง หรือเส้นประสาท สามารถทำให้เกิดอาการอ่อนแรงได้ เช่น อุบัติเหตุ การยกของหนักผิดท่า

5. โรคอื่น ๆ โรคบางชนิด เช่น โรคต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โรคติดเชื้อ โรคมะเร็ง ก็สามารถทำให้เกิดอาการอ่อนแรงได้เช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดแขนขาอ่อนแรง

  • อายุ ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่า
  • ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง
  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูง โรคเบาหวานสามารถทำลายเส้นประสาทได้
  • ไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบ
  • การสูบบุหรี่ ทำให้หลอดเลือดตีบ
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
  • การขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • พันธุกรรม บางโรคมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม

แขนขาอ่อนแรงอันตรายไหม สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม

ขาไม่มีแรงแขนอ่อนแรงเป็นอาการที่บ่งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติในร่างกาย และอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ความพิการหรือเสียชีวิตได้

การขาดเลือดแบบชั่วคราว หรือ Transient Ischemic Attack (TIA) คืออาการที่คล้ายกับโรคหลอดเลือดสมอง แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่นาทีถึง 24 ชั่วโมง แม้ว่าอาการจะหายไป แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองในอนาคตได้สูงถึง 10-15% ภายใน 5 ปี

อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์

  • แขนขาอ่อนแรง ไม่ว่าจะเป็นแขนขาอ่อนแรงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
  • ชาหรือรู้สึกเสียวซ่า ที่ใบหน้า แขน หรือขา
  • พูดลำบาก พูดไม่ชัด หรือพูดไม่รู้เรื่อง
  • เห็นภาพซ้อน หรือมองเห็นภาพไม่ชัด
  • เวียนหัว หรือ หน้ามืด
  • ปวดศีรษะรุนแรง โดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด

3 กลุ่มโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่พบได้บ่อย

  1. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวรับที่เชื่อมต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  2. โรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันทำลายปลอกหุ้มเส้นประสาท ทำให้ส่งสัญญาณประสาทผิดปกติ
  3. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดกรรมพันธุ์ (Muscular Dystrophy) เป็นกลุ่มของโรคที่เกิดจากความผิดปกติของยีน ทำให้กล้ามเนื้อเสื่อมสลาย

ควบคุมปัจจัยเสี่ยงลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุ

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรควบคุม ได้แก่

  • ความดันโลหิตสูง รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ลดการบริโภคโซเดียม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • โรคเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยรับประทานยา ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย
  • ไขมันในเลือดสูง ควบคุมระดับไขมันในเลือด โดยรับประทานยา ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย
  • การสูบบุหรี่ เลิกสูบบุหรี่
  • โรคหัวใจ รักษาโรคหัวใจตามคำแนะนำของแพทย์
  • น้ำหนักเกิน ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • การดื่มแอลกอฮอล์ ลดหรืองดดื่มแอลกอฮอล์

แม้ว่าจะควบคุมปัจจัยเสี่ยงได้ดีแล้ว แต่ความเสี่ยงในการเกิดโรคซ้ำก็ยังสูงกว่าคนทั่วไป ดังนั้น ผู้ป่วยจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

วิธีฟื้นฟูแขนขาอ่อนแรงและวิธีกายภาพบําบัดแขนขาอ่อนแรง

กายภาพบำบัด เป็นหนึ่งในวิธีรักษาแขนขาอ่อนแรงที่สำคัญ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวจากอาการยกแขนไม่ขึ้น ไม่มีแรง และปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรกายภาพบำบัดจากมหาวิทยาลัยทั้งหลักสูตรของสหเวชหรือหลักสูตรกายภาพบำบัดโดยตรง สามารถให้การรักษาได้ทั้งในคลินิก โรงพยาบาล และที่บ้าน นอกจากนี้สามารถให้การรักษาในน้ำหรือธาราบำบัดได้

ทำไมกายภาพบำบัดจึงสำคัญสำหรับผู้ที่มีอาการแขนขาอ่อนแรง?

  • เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องตัวมากขึ้น
  • ปรับปรุงการทรงตัว การฝึกการทรงตัวจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการล้ม
  • ลดอาการปวด การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอาการปวดที่เกิดจากการอักเสบของข้อต่อ
  • เพิ่มความคล่องตัว การฝึกการเคลื่อนไหวต่างๆ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำกิจวัตรประจำวัน
  • ปรับปรุงคุณภาพชีวิต การฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น

ท่าบริหารสำหรับอาการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง (ตัวอย่าง)

ข้อควรระวัง ก่อนเริ่มทำท่าบริหาร ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อให้ได้โปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

  • ยกขาตรง นอนหงาย ยกขาขึ้นตรงทีละข้าง ค้างไว้ 5-10 วินาที ทำซ้ำหลายครั้ง
  • งอเข่า นอนหงาย งอเข่าทีละข้าง สลับกันไปมา
  • เหยียดขา นั่งบนเก้าอี้ ยกขาขึ้นตรง เหยียดเท้าออก
  • เดินช้า ๆ เริ่มจากเดินช้า ๆบนพื้นเรียบ แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะทางและความเร็ว
  • ใช้เครื่องมือช่วยเดิน หากจำเป็น อาจใช้ไม้เท้าหรืออุปกรณ์ช่วยเดินอื่นๆ เพื่อเพิ่มความมั่นคง

กายภาพบำบัดแล้วสามารถเดินได้เป็นปกติไหม?

ผลลัพธ์ของการกายภาพบำบัดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุของอาการเดินไม่ได้ ขาไม่มีแรง ความรุนแรงของอาการ และความร่วมมือของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม การกายภาพบำบัดสามารถช่วยให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่กลับมาเดินได้ดีขึ้น หรือสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างอิสระมากขึ้น

สิ่งสำคัญคือต้องมีความอดทนและสม่ำเสมอในการทำกายภาพบำบัด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการฟื้นตัว

  • สาเหตุของอาการ หากสาเหตุของอาการอ่อนแรงได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง การฟื้นตัวก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • อายุ ผู้สูงอายุอาจใช้เวลานานในการฟื้นตัวมากกว่าคนหนุ่มสาว
  • สุขภาพโดยรวม ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี จะมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่า
  • ความร่วมมือของผู้ป่วย การทำตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ใครบ้างที่ควรทำกายภาพบำบัดบริหารกล้ามเนื้อขา?

การทำท่าบริหารกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลายกลุ่มคนที่ต้องการฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและปรับปรุงการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อขา

กลุ่มคนที่ควรทำท่าบริหารกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง

  • ผู้สูงอายุ การเสื่อมของกล้ามเนื้อเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นตามอายุ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอความเสื่อมของกล้ามเนื้อและป้องกันการล้ม
  • ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเข่า ข้อสะโพก หรือกระดูกสันหลัง การทำกายภาพบำบัดและการออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ผู้ที่ผ่านการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือข้อสะโพก การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและช่วยให้การเคลื่อนไหวกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น
  • ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบ โรคเส้นประสาทอักเสบ การออกกำลังกายจะช่วยบรรเทาอาการปวดและปรับปรุงคุณภาพชีวิต
  • ผู้ที่มีภาวะอัมพาต การออกกำลังกายจะช่วยป้องกันการเกิดภาวะกล้ามเนื้อลีบ และช่วยให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้น

WALK WELL – เดินได้เดินดี ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยอายุรแพทย์ระบบประสาท และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มีโปรแกรมกายภาพบำบัด สามารถปรับตามได้ในแต่ละบุคคล และมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อศูนย์  WALK WELL

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับแขนขาอ่อนแรง

แขนขาอ่อนแรงเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองอย่างไร

แขนขาอ่อนแรงเป็นหนึ่งในอาการบ่งชี้ว่าอาจเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ เนื่องจากเมื่อหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงหรืออัมพฤกษ์ตามมา

อาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลันควรทำอย่างไร

หากมีอาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน ควรรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที (หมายเลข 1669) และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เพราะการรักษาที่รวดเร็วจะช่วยลดความเสียหายของสมองและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว

แขนขาอ่อนแรงจากโรคหลอดเลือดสมองแตกต่างจากสาเหตุอื่นอย่างไร

มักเกิดขึ้นเฉียบพลันโดยไม่มีสัญญาณเตือน ร่วมกับอาการอื่น เช่น หน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด หรือการมองเห็นผิดปกติ ซึ่งต่างจากการอ่อนแรงจากโรคกระดูกหรือเส้นประสาทที่มักเป็นเรื้อรังและค่อย ๆ แย่ลง

แขนขาอ่อนแรงจากการใช้กล้ามเนื้อมากไปอันตรายหรือไม่

โดยทั่วไปไม่อันตราย มักเกิดจากกล้ามเนื้อล้า หากพักผ่อนก็จะดีขึ้น แต่หากเป็นบ่อยหรือรุนแรงควรตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ

การกายภาพบำบัดช่วยผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงได้จริงหรือไม่?

ช่วยได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อ่อนแรงจาก Stroke หรือเส้นประสาทถูกกดทับ การทำกายภาพจะช่วยฟื้นแรงกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดการฝ่อลีบ และสอนทักษะใหม่ในการเคลื่อนไหว

แขนขาอ่อนแรงสามารถป้องกันได้หรือไม่

ป้องกันได้บางส่วน โดยการดูแลสุขภาพ เช่น ควบคุมความดัน เบาหวาน ไขมัน เลิกบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นั่งทำงานถูกท่าป้องกันหมอนรองกระดูกเสื่อม และตรวจสุขภาพประจำปี

บทความนี้ถูกตรวจทานโดย
หมอขวัญ นพ.ขวัญ ศรีศิลป
ว.51094
MD., Physical Medicine & Rehabilitation (PM&R / Physiatrist)