บริการกายภาพบำบัด โดย WALK WELL - เดินได้เดินดี
ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง

หุ่นยนต์ฝึกเดิน SensibleSTEP
WALKWELL ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง และคลินิกกายภาพบำบัด ให้บริการกายภาพบำบัดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

ขั้นตอนกายภาพบำบัด และวิธีการกายภาพบำบัด ของ WALK WELL

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

เพื่อลดอาการเกร็ง และเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ

การขยับข้อต่อ

ช่วยเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวและลดความเจ็บปวดจากการตึงของเนื้อเยื่อ

การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ

กระตุ้นกล้ามเนื้อให้ทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้

การฝึกเดินและการฝึกทรงตัว

เพื่อเพิ่มความมั่นคง และลดความเสี่ยงจากการล้ม

การฝึกพูดและการฝึกกลืน

ช่วยพัฒนาความสามารถในการพูดและการกลืน ลดความเสี่ยงจากการสำลักอาหาร

“ การทำกายภาพบำบัดควรเริ่มภายใน 3-6 เดือนหลังเกิดโรค เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดในการฟื้นฟู “

อุปกรณ์ในการกายภาพบำบัดของ WALK WELL

คลินิกโรคหลอดเลือดสมองของเรามีอุปกรณ์กายภาพบำบัดที่ใช้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หลากประเภท ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพ และการเคลื่อนไหว ดังนี้

หุ่นยนต์ฝึกเดิน SensibleSTEP

หุ่นยนต์ฟื้นฟูการเดิน (SensibleSTEP)

หุ่นยนต์ฟื้นฟูการเดินช่วยให้ผู้ป่วยฝึกเดินได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกลับมาเดินได้ถึง 70% ภายใน 3-6 เดือน

อุปกรณ์ช่วยยืน

เช่น เตียงปรับยืน (Tilt Table) ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถยืนได้อย่างมั่นคง

ระบบรางและรอกฝึกเดิน

อุปกรณ์ฝึกเดิน

เช่น ระบบรางและรอกฝึกเดิน (Ceiling Hoist) ช่วยให้ผู้ป่วยฝึกเดินบนพื้นจริงอย่างมั่นใจ โดยไม่กลัวล้ม

เครื่องออกกำลังกาย

เช่น Arm Ergometer (จักรยานปั่นมือ) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

“การใช้เครื่องมือเหล่านี้ร่วมกับการดูแลจากนักกายภาพบำบัดจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ“

ตัวอย่างโปรแกรมกายภาพบำบัด

ตัวอย่างเคส ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองตีบ มีอาการอ่อนแรงซีกขวา 2 สัปดาห์ สามารถนั่งและยืนด้วยตัวเองได้ แต่เดินไม่คล่องต้องใช้ไม้เท้า 3 ขา และต้องมีผู้ช่วยประคอง

กายภาพบำบัด

ตารางฝึกกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ

เวลา กิจกรรม เป้าหมาย
9.00 - 9.45 น. ประคบอุ่น ยืดกล้ามเนื้อแขนและขา ลดแรงเกร็งกล้ามเนื้อแขนและขา
9.45 - 10.15 น. ฝึกยืนด้วยเตียงปรับยืน (Tilt Table) ฝึกการทรงตัว
10.15 - 10.30 น. ฝึกแรงขาและสะโพก ฝึกแรงกล้ามเนื้อ
10.30 - 11.00 น. ฝึกเดินพื้น ใส่อุปกรณ์ AFO (Ankle Foot Orthosis) ฝึกเดินกับพื้นจริง
11.00 - 11.30 น. ฝึกปั่นแขนด้วยจักรยานปั่นมือ (Arm Ergometer) ฝึกแรงแขน

นักกายภาพบำบัดคือใคร?
รู้จักกับทีมนักกายภาพบำบัดของ WALK WELL

นักกายภาพบำบัด (Physical Therapist หรือ PT) คือผู้เชี่ยวชาญที่มีหน้าที่ในการตรวจประเมิน วินิจฉัย และบำบัดความบกพร่องทางร่างกาย โดยเน้นการฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากโรค การบาดเจ็บ หรือภาวะอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย

นักกายภาพบำบัด

กายภาพบำบัดคืออะไร? และประโยชน์ของกายภาพบำบัด

กายภาพบำบัด  คือ การรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายโดยการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วยในการรักษา  หรือการฝึกทักษะการเคลื่อนไหว การรักษานี้จะได้รับการดูแลโดยนักกายภาพบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ โดยการบำบัดสามารถใช้ในการรักษาหลายประเภท นอกจากนี้ประโยชน์ของกายภาพบำบัดยังมีอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น

  • ลดอาการปวดและการอักเสบ
  • ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่น
  • เสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรง
  • ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ
  • ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการผ่าตัด
  • ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
หากคุณกำลังมองหาคลินิกกายภาพบําบัด ใกล้ฉัน ที่มีคุณภาพ คลินิกกายภาพบำบัด ราคาไม่แพง และราคาสมเหตุสมผล ใกล้บ้านคุณ เราพร้อมดูแลคุณด้วยบริการระดับมืออาชีพ ติดต่อเราวันนี้เพื่อปรึกษาฟรี!

ติดต่อเรา


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการกายภาพบำบัด

กายภาพบำบัด ครั้งละกี่บาท

ค่าบริการกายภาพบำบัดมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานที่และประเภทของการบำบัดเช่น โรงพยาบาลรัฐ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 200-500 บาทต่อครั้ง หรือ โรงพยาบาลเอกชน ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 800-2,000 บาทต่อครั้ง

  • ผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ เช่น ปวดหลัง คอ หรือหัวไหล่
  • ผู้ที่ฟื้นตัวจากการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดข้อเข่า หรือสะโพก
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น อัมพฤกษ์หรืออัมพาต
  • ผู้สูงอายุที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงและการทรงตัว
  • ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬ
  • เตรียมประวัติการเจ็บป่วยหรือผลการตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้อง
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สะดวกและเหมาะสมสำหรับการเคลื่อนไหว
  • แจ้งนักกายภาพบำบัดเกี่ยวกับอาการเจ็บปวดหรือข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว
  • ตั้งเป้าหมายในการรักษา เช่น ลดอาการปวด หรือฟื้นฟูการเคลื่อนไหว

ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและความรุนแรงของอาการ

  • อาการเล็กน้อย: อาจเห็นผลภายใน 1-3 สัปดาห์
  • อาการเรื้อรัง: อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือมากกว่านั้น
  • ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของนักกายภาพบำบัด
  • เลือกสถานที่ที่มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • อ่านรีวิวหรือคำแนะนำจากผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ
  • พิจารณาความสะดวกของสถานที่ เช่น ใกล้ที่พักหรือที่ทำงาน
  • สอบถามโปรแกรมการบำบัดและค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าตรงกับความต้องการ