ADD ANYTHING HERE OR JUST REMOVE IT…

นักกิจกรรมบำบัด คือใคร มีหน้าที่อะไรบ้าง ? ทำไมถึงสำคัญ! 

นักกิจกรรมบำบัดคือใคร มีหน้าที่อะไรบ้าง ? ทำไมถึงสำคัญ! 
Table of Contents

คุณเคยสงสัยไหมว่า นักกิจกรรมบำบัด คือใครกันแน่? พวกเขามีบทบาทอย่างไรในการดูแลสุขภาพ และทำไมถึงมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับนักกิจกรรมบำบัดอย่างเจาะลึก พร้อมไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหน้าที่ ความสำคัญ และประโยชน์ของนักกิจกรรมบำบัด

นักกิจกรรมบำบัด คือใคร? (Occupational Therapist)

นักกิจกรรมบําบัด คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่สำเร็จการศึกษาด้านกิจกรรมบำบัดจากมหาวิทยาลัย ปัจจุบันในประเทศไทยมีสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรกิจกรรมบำบัดดังนี้

  • มหาวิทยาลัยมหิดล
  • มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำว่า “กิจกรรมบำบัด“ หรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า Occupational Therapy เป็นการฝึกเพื่อมุ่งเน้นการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้อย่างอิสระ

นักกิจกรรมบำบัดทำอะไรบ้าง?

ลักษณะการทำงานของนักกิจกรรมบำบัด

  • เน้นการทำงานกับผู้ป่วย นักกิจกรรมบำบัดต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโดยตรง
  • ทักษะการสื่อสาร มีความสามารถในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • มีความอดทนและใจเย็น สามารถสร้างความเข้าใจและเข้าถึงผู้ป่วยได้ดี

นักกายภาพบําบัด หน้าที่มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและสถานการณ์ โดยทั่วไปแล้ว ขอบเขตหน้าที่หลักๆ ประกอบด้วย

  • การประเมินผู้ป่วยเบื้องต้น นักกิจกรรมบำบัดจะทำการประเมินสภาพร่างกาย จิตใจ และความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้ป่วย เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  • การฝึกผู้ป่วย นักกิจกรรมบำบัดจะออกแบบและดำเนินการฝึกกิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูหรือพัฒนาทักษะของผู้ป่วยให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติหรือใกล้เคียงที่สุด
  • การให้การบ้านผู้ป่วย นักกิจกรรมบำบัดจะให้คำแนะนำและมอบหมายกิจกรรมให้ผู้ป่วยฝึกฝนด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อเสริมสร้างความต่อเนื่องของการรักษา

ทำไมนักกิจกรรมบำบัดถึงสำคัญ!

นักกิจกรรมบำบัดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต ด้วยบทบาทสำคัญดังนี้

  • การกระตุ้นการเรียนรู้ของสมอง กิจกรรมกลุ่มบําบัด นันทนาการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้สมองที่มีความยืดหยุ่นสามารถเรียนรู้และจดจำทักษะใหม่ ๆ ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถนำทักษะเหล่านั้นไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง
  • การฝึกชดเชยการทำงานที่สูญเสียไป (Compensate) ในกรณีที่ผู้ป่วยสูญเสียความสามารถในการทำงานบางอย่างไป กิจกรรมบำบัดจะมุ่งเน้นการฝึกทักษะเพื่อชดเชยการทำงานนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น การฝึกใส่เสื้อด้วยมือข้างเดียวสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้

กิจกรรมบําบัด มีอะไรบ้าง 

กิจกรรมบำบัดสำหรับเด็ก ฝึกการใช้งานแขนและมือ กิจกรรมบำบัดสำหรับเด็กมุ่งเน้นการกระตุ้นพัฒนาการผ่านการใช้กล้ามเนื้อและการรับรู้ทางประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น การสัมผัส การมองเห็น และการได้ยิน เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้

กิจกรรมบำบัดสำหรับผู้ใหญ่

กิจกรรมบำบัดสำหรับผู้ใหญ่จะแตกต่างกันไปไปตามลักษณะของโรคและปัญหาที่ผู้ป่วยเผชิญ ดังนี้

  1. ปัญหาการกลืน ฝึกการกลืนเพื่อปรับปรุงความสามารถในการรับประทานอาหาร
  2. ปัญหาการใช้แขน ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อฝึกการเคลื่อนไหวและการใช้งานของแขน การใช้อุปกรณ์ดามข้อมือ (Splint)
  3. ปัญหาการใช้มือ ใช้อุปกรณ์ขนาดเล็ก เพื่อฝึกการทำงานของนิ้วมือ

กิจกรรมบำบัดมีประโยชน์ต่อใครบ้าง?

กิจกรรมบำบัดมีประโยชน์ต่อ เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า ผู้พิการ ผู้บาดเจ็บ กิจกรรมบำบัดผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาสุขภาพจิต (กิจกรรมบำบัดจิตเวช ช่วยจัดการอารมณ์ ความคิด พฤติกรรม และส่งเสริมทักษะทางสังคม) 

ยกตัวอย่างเช่น

  • กิจกรรมฝึกการทำงานของมือและนิ้ว (Fine Motor Skills) 

คือ การฝึกการหยิบ การจับ โดยในช่วงแรก แขนจะทำงานเป็นชุด ไม่สามารถแยกการเคลื่อนไหวของข้อต่อแต่ละส่วนได้ เมื่ออาการเส้นเลือดสมองดีขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มควบคุมหัวไหล่ ศอก และข้อมือได้ แต่การควบคุมนิ้วมือซึ่งมีความซับซ้อนกว่า มักต้องได้รับการฝึกเพิ่มเติม การฝึกจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของนิ้วแต่ละนิ้วได้อย่างละเอียด และสามารถใช้งานนิ้วมือร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

การฝึกจะเน้นการควบคุมแรงและการใช้งานนิ้วมืออย่างเฉพาะเจาะจง เช่น การใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งหยิบจับสิ่งของ หรือการใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วโป้งจับสิ่งของ กิจกรรมบำบัดที่เน้นการฝึกนิ้วมือและกล้ามเนื้อมัดเล็กเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วยที่เริ่มควบคุมมือได้

การฝึกนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น เช่น การแต่งตัว การรับประทานอาหาร และการเขียนหนังสือ

มีอะไรบ้าง

กิจกรรมฝึกการทำงานของมือและนิ้ว (Fine Motor Skills) สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยเน้นการพัฒนาทักษะการหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ดังนี้

  • กิจกรรมพื้นฐาน
  1. การฝึกใช้ช้อนส้อม
  2. เกมจับคู่การ์ด
  3. การเรียงบล็อก
  • การฝึกหยิบจับสิ่งของ
  1. เริ่มต้นจากการหยิบจับสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น ขวด แก้ว หรือลูกบอล
  2. ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสิ่งของที่มีรูปทรงเฉพาะ เช่น ทรงกรวย
  3. จากนั้นจึงฝึกหยิบจับสิ่งของขนาดเล็กที่ต้องใช้ความแม่นยำของนิ้วมือ เช่น ลูกปัด หรือบล็อกขนาดเล็กที่ต้องใช้สามนิ้วในการจับ
  • กิจกรรมฝึกสมาธิและฝึกวิเคราะห์ 

การฝึกเพื่อฟื้นฟูการทำงานของสมองส่วนหน้าและส่วนข้าง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองในด้านต่าง ๆ เช่น Communicate Funation การสื่อสาร การพูด การเข้าใจ ความจำ การเข้าใจกฎเกณฑ์ และการเข้าใจรูปทรงต่าง ๆ การบาดเจ็บของสมองในบริเวณดังกล่าวอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น สมาธิสั้น การสื่อสารบกพร่อง หรือความจำเสื่อม การฝึกจึงมีความสำคัญในการฟื้นฟูสมรรถภาพเหล่านี้

สามารถฝึกโดยใช้กิจกรรม ต่อไปนี้

  • การพลิกไพ่จับคู่ ฝึกความจำและการสังเกต
  • การฝึกสมาธิโดยการอยู่คนเดียว ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อ (attention)
  • การพูดคุยกับผู้ป่วยบ่อย ๆ กระตุ้นการรับรู้และการตื่นตัว
  • การดูโทรทัศน์หรือข่าวร่วมกันแล้วสรุปเนื้อหา ฝึกการวิเคราะห์และการสรุปความ
  • ปริศนาอักษรไขว้ (Crossword puzzles)
  • ซูโดกุ (Sudoku)

WALK WELL – เดินได้เดินดี ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยอายุรแพทย์ระบบประสาท และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มีโปรแกรมกายภาพบำบัด สามารถปรับตามได้ในแต่ละบุคคล และมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ ติดต่อศูนย์  WALK WELL

ทำไมผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองถึงควรพบนักกิจกรรมบำบัด? 

ปัญหาการใช้งานแขนและมือ กิจกรรมบำบัดจะเน้นการกระตุ้นและฝึกฝนการใช้งานแขนและมือ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การหยิบจับสิ่งของ การแต่งตัว หรือการรับประทานอาหารได้
ปัญหาการกลืน ในผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืน นักกิจกรรมบำบัดจะทำการฝึกกลืนและปรับอาหารให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการสำลักอาหาร

นักกิจกรรมบำบัดช่วยอย่างไรในด้านการทำกิจวัตรประจำวัน? 

การฝึก ADL คือการฝึกทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาดูแลตนเองได้มากที่สุด โดยทั่วไปจะมีการประเมิน ADL มีทั้งหมด 16 หัวข้อ

ความถี่ในการพบนักกิจกรรมบำบัดควรเป็นอย่างไร? 

กิจกรรมบำบัดสามารถทำได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อฟื้นฟูอย่างเข้มข้น (intensive rehabilitation) หรือการฟื้นฟูแบบองค์รวม (comprehensive rehabilitation) ซึ่งสามารถทำได้ทุกวัน 5 วันต่อสัปดาห์ หรือในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อาจทำได้ทุกวัน 7 วันต่อสัปดาห์

ควรเริ่มพบนักกิจกรรมบำบัดเมื่อไหร่หลังเป็นโรคหลอดเลือดสมอง? 

การทำกิจกรรมบำบัดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ระยะแรกหลังเกิดโรค โดยทั่วไปจะเริ่มได้หลังจาก 3 วันแรกที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการ

บทความนี้ถูกตรวจทานโดย
หมอขวัญ นพ.ขวัญ ศรีศิลป
ว.51094
MD., Physical Medicine & Rehabilitation (PM&R / Physiatrist)