ADD ANYTHING HERE OR JUST REMOVE IT…

เข้าใจผู้ป่วยติดเตียง สาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลที่ต้องรู้

เข้าใจผู้ป่วยติดเตียง สาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลที่ต้องรู้
Table of Contents

“ผู้ป่วยติดเตียง” คำนี้ฟังดูหนักหน่วงและน่ากังวล แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้นต้องการความรัก ความอดทน และความเข้าใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว หรือผู้ที่ประกอบอาชีพดูแลผู้ป่วย การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เราสามารถดูแลพวกเขาได้อย่างเหมาะสม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างดีที่สุด

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ป่วยติดเตียงอย่างละเอียด ตั้งแต่การอธิบายผู้ป่วยติดเตียงคืออะไร ทำไมถึงนอนติดเตียง? ผู้ป่วยติดเตียงมีกี่ประเภท รวมถึงผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองควรดูแลอย่างไร เพื่อให้คุณสามารถดูแลผู้ป่วยเส้นเลือดสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงโดยตรง หรือเพียงแค่ต้องการศึกษาข้อมูลเพื่อความรู้ทั่วไป บทความนี้จะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

ผู้ป่วยติดเตียงคืออะไร ทำไมถึงนอนติดเตียง

ผู้ป่วยติดเตียงคือ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ด้วยตนเอง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น แขนขาอ่อนแรง หรือข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า หรือข้อแขนข้อมือยึดติด ทำให้ไม่สามารถขยับระยางเพื่อใช้ในการลุกขึ้นนั่งหรือออกจากเตียงได้ 

ผู้ป่วยติดเตียงมีกี่ประเภท

ผู้ป่วยติดเตียงมี 2 ประเภท 

  1. Bedridden เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่นอนติดเตียงไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งทำกิจกรรมบนเตียงได้
  2. Bedbound เป็นผู้ป่วยที่สามารถลุกขึ้นมานั่งทำกิจกรรมบนเตียงได้ แต่ไม่สามารถออกจากเตียงได้

กลุ่มที่มีโอกาสเป็น

กลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยติดเตียง ได้แก่

  • ผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลนานและมีปัญหาอ่อนแรงของแขนขา
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุทางศีรษะหรือสมอง ผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง
  • ผู้ป่วยโรคไขสันหลังต่าง ๆ
  • ผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนแรงขาดดูแลและไม่มีผู้ช่วยทำกายภาพบำบัดในช่วงแรก ก็อาจมีโอกาสเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะผู้ป่วยติดเตียง ได้แก่

  • Disease ตัวโรคประจำตัวของผู้ป่วย
  • Physical Condition สภาวะร่างกายก่อนเกิดโรค เช่น หากผู้ป่วยเดินลำบากและต้องใช้อุปกรณ์หรือคนช่วยพยุงอยู่แล้ว เมื่อเจ็บป่วยก็มีโอกาสที่จะติดเตียงได้
  • Socioeconomic Status ผู้ป่วยที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมไม่ดี อาจไม่มีผู้ดูแลที่บ้าน ทำให้มีโอกาสเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้ หากผ่านพ้นช่วง Golden Period ไปแล้ว
  • Pressure Injury แผลกดทับสามารถทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด และไม่สามารถขยับตัวได้จนติดเตียงในที่สุด

ผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองควรดูแลอย่างไร

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งมักมีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้การเคลื่อนไหวและการใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก

เป้าหมายสำคัญของการพยาบาลผู้ป่วยติดเตียงคือการป้องกันภาวะแทรกซ้อน ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

  • พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง
  • ขยับแขนขาและข้อต่อทุกส่วนอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  • ดูแลเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระให้สะอาด
  • หากผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ควรให้ผู้ป่วยได้นั่งบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในปอดและการสำลักอาหาร

วิธีการดูแลด้านจิตใจ

พูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วย และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคของผู้ป่วย เนื่องจากบางครั้งผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดสมองอาจไม่สามารถพูดหรือตอบสนองได้ ซึ่งญาติอาจเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

อาการที่ควรระวังในการดูแล

อาการที่ควรระวังในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง ได้แก่ ภาวะปอดติดเชื้อ แผลกดทับ และข้อติด ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการดูแลที่ได้วางไว้

โภชนาการและอาหารผู้ป่วยติดเตียง

ควรเลือกอาหารตามความสามารถในการรับประทานของผู้ป่วย ตามคำแนะนำของแพทย์ และตามโรคประจำตัว หากผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการกลืนหรือสำลัก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทางปาก สำหรับอาหารที่ไม่ควรรับประทานนั้น ก็ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวของผู้ป่วยแต่ละราย

เทคโนโลยีและอุปกรณ์ช่วยเหลือ

เทคโนโลยีและอุปกรณ์มากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ญาติในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงเป็นหลัก เช่น

  • เก้าอี้ยกคนไข้ (Patient Lift Chair)
  • เปลย้ายคนไข้ (Patient Transfer Sling)
  • รถเข็นสุขภัณฑ์ข้างเตียง (Bedside Commode Wheelchair)
  • การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อปรึกษาแพทย์โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล
  • เตียงที่มีเทคโนโลยีสามารถปรับพลิกตัวผู้ป่วยได้

การฟื้นฟูผู้ป่วยติดเตียง

หากมีโรคประจำตัวที่เป็นสาเหตุของการติดเตียง จะต้องรักษาโรคประจำตัวนั้นก่อน ควบคู่ไปกับการฝึกเพื่อทดแทน เช่น หากผู้ป่วยยังมีแรงเหลือที่แขนขาข้างหนึ่ง ก็จะฝึกเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของแขนขาอีกข้าง

บทบาทของครอบครัว/คนดูแลผู้ป่วยติดเตียง

ครอบครัวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูผู้ป่วยติดเตียง โดยเป็นกุญแจหลักในการดูแลอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผู้ป่วยยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากนี้ ครอบครัวยังเป็นความหวังในการช่วยทำกายภาพบำบัดที่บ้าน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาลุกนั่งหรือออกจากเตียงได้ในที่สุด

ผู้ป่วยติดเตียงที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง

วิธีการดูแลผู้ป่วยติดเตียงจากโรคหลอดเลือดสมองนั้นคล้ายกับการดูแลผู้ป่วยติดเตียงทั่วไป โดยเน้นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนี้

ป้องกันภาวะปอดติดเชื้อ

  • หลีกเลี่ยงการนอนราบทันทีหลังรับประทานอาหาร 1-2 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการทำกายภาพบำบัดทันทีหลังรับประทานอาหาร
  • ปรับหัวเตียงให้สูงขณะรับประทานอาหารหรือให้อาหารทางสายยาง เพื่อป้องกันการสำลัก
  • หลีกเลี่ยงการป้อนอาหารทางปาก หากแพทย์ยังไม่แนะนำ
  • พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง และดูแลแผลหากมี โดยเฉพาะแผลกดทับ

แตกต่างจากผู้ป่วยติดเตียงประเภทอื่น ๆ ไหม

  • ผู้ป่วยติดเตียงจากโรคหลอดเลือดสมอง หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีกำลังแขนขาดีและสามารถควบคุมร่างกายได้ดี ก็จะไม่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่หากมีกำลังแขนขาไม่ดีและทรงตัวลำบาก ก็อาจนำไปสู่ภาวะติดเตียงได้
  • ผู้ป่วยติดเตียงจากสาเหตุอื่น อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานานจนเกิดภาวะข้อติด
  • ความเหมือน ผู้ป่วยติดเตียงจากทั้งสองสาเหตุอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่คล้ายคลึงกัน เช่น ข้อติด 

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการติดเตียงอาจแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นจากตัวโรคเอง หรือจากการที่ผู้ป่วยไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลานาน

ควรเฝ้าระวังหรือใส่ใจเรื่องไหนเป็นพิเศษในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง

ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลัก 3 ประการ ได้แก่

  1. ภาวะปอดติดเชื้อ ผู้ป่วยติดเตียงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและมีการสัมผัสกับเชื้อโรคได้ง่าย

วิธีป้องกัน

  • รักษาความสะอาด ทั้งตัวผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
  • เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและผ้าห่มเป็นประจำ
  • ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เช่น อาบน้ำ เช็ดตัว ทำความสะอาดช่องปาก
  • สังเกตอาการติดเชื้อ เช่น ไข้ หนาวสั่น แผลมีหนอง
  1. แผลกดทับ หรือ Pressure Injury คือ การที่ผิวหนังถูกกดทับด้วยแรงที่มากเกินไปเป็นระยะเวลานาน ทำให้เนื้อเยื่อตายเนื่องจากการขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้น มักเกิดบริเวณผิวหนังที่อยู่เหนือปุ่มกระดูกต่าง ๆ 

วิธีป้องกันคือหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณใดบริเวณหนึ่งเป็นเวลานาน หากเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ จุดนั้นจะเกิดการตาย โดยทั่วไปจึงแนะนำให้พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเปลี่ยนจุดที่ถูกกดทับ

รักษาแผลกดทับขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผล หากแผลลึกกว่าระยะที่ 2 อาจจำเป็นต้องให้ศัลยแพทย์ตัดเนื้อเยื่อที่ตายออก ให้ยาฆ่าเชื้อ หรือผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากแผลกดทับ

  1. ข้อติด คือ ภาวะที่ข้อต่อของร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มช่วงปกติ หรือเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก เกิดจากการหดรั้งหรือตึงตัวของเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อต่อ เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เยื่อหุ้มข้อ หรือผิวหนัง ทำให้ข้อต่ออยู่ในท่าที่ไม่พึงประสงค์และจำกัดการใช้งานของอวัยวะนั้น ๆ

การป้องกัน เน้นการออกกำลังกายข้อต่อทุกวัน (Range of Motion Exercises) การจัดท่าให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และอาจใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น เฝือก

การรักษาหลักๆ คือการกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ อาจใช้ความร้อนเย็นช่วยลดปวด และในกรณีรุนแรงอาจต้องผ่าตัด

โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในภาวะติดเตียง

นอกจากภาวะปอดติดเชื้อ แผลกดทับ และข้อติดแล้ว ผู้ป่วยติดเตียงยังอาจเผชิญกับโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้าและความเครียด (Depression)

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ที่ WALK WELL เราเข้าใจถึงความยากลำบากในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งอายุรแพทย์ระบบประสาทและแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู พร้อมโปรแกรมกายภาพบำบัดที่สามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล

WALK WELL – เดินได้เดินดี ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยอายุรแพทย์ระบบประสาท และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มีโปรแกรมกายภาพบำบัด สามารถปรับตามได้ในแต่ละบุคคล และมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อศูนย์  WALK WELL

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับผู้ป่วยติดเตียง

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยติดเตียงมีอะไรบ้าง

แผลกดทับ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจากการใส่สายสวน ภาวะปอดอักเสบจากการสำลักอาหาร กล้ามเนื้อฝ่อลีบ ข้อติด และปัญหาด้านจิตใจ เช่น ซึมเศร้าหรือวิตกกังวล

ควรจัดสภาพแวดล้อมห้องผู้ป่วยอย่างไร

ห้องควรถ่ายเทอากาศดี แสงสว่างเพียงพอ และไม่มีสิ่งกีดขวาง ควรใช้ที่นอนที่ลดแรงกดทับ เช่น ที่นอนลม และติดตั้งราวจับเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้ดูแล

ผู้ป่วยติดเตียงออกกำลังกายได้หรือไม่

ทำได้ โดยอาศัยการกายภาพบำบัด เช่น การขยับแขนขาเบา ๆ การยืดเหยียด หรือการฝึกนั่ง เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อฝ่อลีบและข้อติด ควรทำอย่างสม่ำเสมอภายใต้คำแนะนำของนักกายภาพบำบัด

ผู้ป่วยติดเตียงสามารถป้องกันแผลกดทับได้อย่างไร

พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง ใช้ที่นอนลดแรงกดทับ ทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิว และหมั่นตรวจผิวหนัง หากพบรอยแดงควรเปลี่ยนท่าทันที

ผู้ป่วยติดเตียงมีโอกาสฟื้นตัวจนกลับมาเดินได้หรือไม่

ขึ้นอยู่กับสาเหตุและการฟื้นฟู เช่น ผู้ที่เกิดจาก Stroke หากทำกายภาพบำบัดต่อเนื่องในช่วง Golden Period 3 เดือนแรก มีโอกาสกลับมาเดินได้บางส่วน แต่ไม่ใช่ทุกกรณี

บทความนี้ถูกตรวจทานโดย
หมอขวัญ นพ.ขวัญ ศรีศิลป
ว.51094
MD., Physical Medicine & Rehabilitation (PM&R / Physiatrist)